Apple อัปเดต iOS 17.7 และ iOS 18 พร้อมกัน อัปตัวไหนดี อัปอะไรก่อน มันคืออะไร

iOS 17.7 และ iOS 18 ใช้อันไหน ควรข้ามไป iOS 18 เลยหรือไม่

วันนี้ผู้ใช้งาน iPhone และอุปกรณ์ต่างๆของ Apple จะได้รับการแจ้งเตือนอัปเดต iOS 17.7 และ iOS 18 รวมถึง iPadOS 18, watchOS 11 , macOS Sequoia, tvOS 18, visionOS 2 ที่น่าสนใจคือมีการอัปเดค iOS พร้อมกัน 2 เวอร์ชั่น คือ iOS 17.7 และ iOS 18 ทำให้หลายคนสงสัยว่าควรอัปเดตตัวไหน iOS 17.7 และ iOS 18 ตัวไหนดีกว่ากัน แล้วทำไมต้องมี 2 เวอร์ชั่น (มีเวอร์ชั่น iPadOS 17.7 ด้วยนะ)

ในหน้าอัปเดต การตั้งค่า > ทั่วไป > รายการอัปเดตซอฟต์แวร์ คุณจะเห็นตัวเลือกให้อัปเดต iOS 17.7 อยู่บนสุด หากต้อการอัปเดต iOS 18 ต้องเลื่อนหน้าจอลงมา จะให้เมนู “มีให้อัปเดตด้วย” เลือกตัวเลือก “อัปเดตเป็น iOS 18”

iOS 17.7 คืออะไร อัปเดตมาทำไม

iOS 17.7 และ iPadOS 17.7 ที่ออกเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2024 มีรายละเอียดการอัปเดตเน้นเรื่อง ความปลอดภัย โดย Apple มีการแก้ไขช่องโหว่ในหลายๆ ส่วนเพื่อป้องกันการโจมตีหรือการเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต

รายการการอัปเดตที่สำคัญของ iOS 17.7

• Accessibility: ผู้โจมตีที่เข้าถึงอุปกรณ์ที่ถูกล็อกทางกายภาพ อาจใช้คุณสมบัติการเข้าถึงเพื่อควบคุมอุปกรณ์ใกล้เคียงได้ แก้ไขด้วยการจัดการสถานะที่ดีขึ้น (CVE-2024-44171)
• Compression: มีการแก้ปัญหาการเปิดไฟล์ที่ถูกสร้างมาเพื่อโจมตี ที่อาจทำให้ผู้โจมตีเขียนไฟล์ลงอุปกรณ์ได้ (CVE-2024-27876)
• Game Center: ช่องโหว่ที่ทำให้แอปพลิเคชันสามารถเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้ แก้ด้วยการตรวจสอบข้อมูลนำเข้าที่ดีขึ้น (CVE-2024-40850)
• ImageIO: แก้ไขปัญหาเมื่อประมวลผลไฟล์ที่อาจทำให้แอปหยุดทำงานหรือเกิด Denial-of-Service (CVE-2024-27880, CVE-2024-44176)
• Kernel: มีการป้องกันข้อมูลการรับส่งผ่าน VPN ที่อาจหลุดรั่วออกมา และป้องกันไม่ให้แอปเข้าถึง Bluetooth โดยไม่ได้รับอนุญาต (CVE-2024-44165, CVE-2024-44191)
• Mail Accounts: มีการแก้ไขปัญหาด้านความเป็นส่วนตัว ที่แอปสามารถเข้าถึงข้อมูลของรายชื่อผู้ติดต่อของผู้ใช้ได้ (CVE-2024-40791)
• Safari Private Browsing: แก้ไขปัญหาที่แท็บการท่องเว็บส่วนตัวอาจถูกเข้าถึงโดยไม่ได้รับการยืนยันตัวตน (CVE-2024-44127)
• Shortcuts: ป้องกันข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจากการถูกแสดงใน Shortcuts โดยไม่ได้รับการยินยอม (CVE-2024-44158, CVE-2024-40844)

  รหัสท้ายที่คุณเห็น เช่น CVE-2024-44158 และ CVE-2024-40844 เป็นรหัสที่ใช้ระบุ ช่องโหว่ด้านความปลอดภัย เรียกว่า CVE (Common Vulnerabilities and Exposures)  เอาไว้ใช้ ระบุและติดตามช่องโหว่ความปลอดภัย เพื่อต้องการตรวจสอบหรือหาข้อมูลเพิ่มเติม

เหตุผลที่ออก 2 เวอร์ชั่น OS 17.7 และ iOS 18

การที่ Apple อัปเดต iOS 17.7 แม้ว่า iOS 18 จะออกมาแล้วนั้น มักจะมีเหตุผลหลักๆ ดังนี้

1. รองรับอุปกรณ์เก่าหรือผู้ที่ไม่พร้อมอัปเดต ผู้ใช้บางคนอาจยังไม่ต้องการหรือไม่สามารถอัปเดตไปยัง iOS 18 ได้ทันที เช่น อุปกรณ์รุ่นเก่าที่อาจไม่รองรับ iOS 18 หรือผู้ใช้ที่ไม่อยากอัปเดตระบบปฏิบัติการใหม่ในทันทีเพราะต้องการรอให้มั่นใจว่าระบบใหม่เสถียรดีแล้ว
2. การแก้ไขปัญหาด้านความปลอดภัย Apple มักจะอัปเดต iOS รุ่นเก่าด้วยแพตช์ความปลอดภัยที่สำคัญ แม้ว่าจะมีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว เพื่อปกป้องผู้ใช้ที่ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการเวอร์ชันเก่า อย่าง iOS 17.7 นี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน โดยเป็นการแก้ไขปัญหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่สำคัญสำหรับผู้ที่ยังไม่อัปเดตไป iOS 18
3. การสนับสนุนระยะยาว: Apple มักจะสนับสนุน iOS เวอร์ชันก่อนหน้าเป็นระยะเวลาหนึ่ง แม้ว่าจะออกเวอร์ชันใหม่แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้ยังได้รับการปกป้องจากช่องโหว่และปัญหาด้านความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น

ดังนั้น iOS 17.7 จึงเป็นการอัปเดตเพื่อให้ผู้ใช้ที่ยังไม่ไป iOS 18 ได้รับการป้องกันและแก้ไขปัญหาที่สำคัญ

iOS 18 มีอะไรใหม่บ้าง

สำหรับใครที่อยากทราบเกี่ยวกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ iOS 18 ให้อ่านบทความนี้

iOS 18 มีอะไรใหม่ มีฟีเจอร์อะไรบ้างที่น่าสนใจ รุ่นไหนอัพได้บ้าง

อุปกรณ์ที่รองรับ iOS 18 รุ่นไหนได้ไปต่อ

จริงๆแล้ว iOS สำหรับ iPhone ที่สามารถติดตั้ง iOS 17 ได้สามารถไปต่อได้ทุกรุ่นเพียงแต่ฟีเจอร์บางอย่างจะไม่สามารถใช้งานได้เท่านั้น อาทิเช่น Apple Intelligence ที่จะใช้งานได้เฉพาะ iPhone 15 Pro, iPhone 15 Pro Max และ iPhone 16 ขึ้นไปเท่านั้น และนี้คือรุ่นของ iPhone ที่สามารถอัปเดต iOS 18 ได้

• iPhone XS
• iPhone XS Max
• iPhone XR
• iPhone SE รุ่นที่ 2
• iPhone SE รุ่นที่ 3
• iPhone 11
• iPhone 11 Pro
• iPhone 11 Pro Max
• iPhone 12 Mini
• iPhone 12
• iPhone 12 Pro
• iPhone 12 Pro Max
• iPhone 13 Mini
• iPhone 13
• iPhone 13 Pro
• iPhone 13 Pro Max
• iPhone 14
• iPhone 14 Plus
• iPhone 14 Pro
• iPhone 14 Pro Max
• iPhone 15
• iPhone 15 Plus
• iPhone 15 Pro
• iPhone 15 Pro Max

ส่วน iPadOS จะมี 3 รุ่นที่ไม่ได้ไปต่อ iPadOS 18 คือ

1. iPad 6th Gen
2. iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่น 2
3. iPad Pro 10.5

ส่วนรุ่นที่ได้ไปต่อ iPadOS 18 คือ

• iPad Mini รุ่นที่ 5 ขึ้นไป
• iPad รุ่นที่ 7 ขึ้นไป
• iPad Air รุ่นที่ 3 ขึ้นไป
• iPad Pro 11 นิ้วตั้งแต่รุ่นที่ 1 ขึ้นไป
• iPad Pro 12.9 นิ้ว รุ่นที่ 3 ขึ้นไป
• iPad Pro M4 หน้าจอ 13 นิ้ว

เราควรอัปเดต iOS 17.7 หรือจะไป iOS 18 เลย

การตัดสินใจว่าจะอัปเดตเป็น iOS 17.7 หรือไป iOS 18 ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานและความสะดวกของคุณเอง ลองพิจารณาตามนี้ครับ:

สถานการณ์ที่ควรอัปเดตเป็น iOS 17.7

1. ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ iOS 17.7 เป็นการอัปเดตเล็กๆ ที่เน้นแก้ไขปัญหาความปลอดภัย คุณจะไม่ต้องปรับตัวกับฟีเจอร์ใหม่ๆ มากนัก และระบบก็ยังคงเสถียรเหมือนเดิม
2. กังวลเรื่องความเสถียรของ iOS 18 หากคุณกังวลว่า iOS 18 อาจยังไม่เสถียรเท่าที่ควร หรืออาจมีบั๊ก คุณอาจรอให้อัปเดตย่อยๆ ของ iOS 18 ออกมาแก้ปัญหาก่อน
3. อุปกรณ์รุ่นเก่าหรือความเข้ากันได้ของแอป ถ้าอุปกรณ์ของคุณรุ่นเก่า หรือแอปที่คุณใช้ยังไม่รองรับ iOS 18 อย่างเต็มที่ อาจดีกว่าที่จะอยู่ใน iOS 17.7 ไปก่อนเพื่อให้แน่ใจว่ายังคงใช้งานได้ปกติ

สถานการณ์ที่ควรอัปเดตเป็น iOS 18

1. ต้องการฟีเจอร์ใหม่ๆ: iOS 18 มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่อาจปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน เช่น การปรับปรุงการใช้งานด้าน AI, การจัดการแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น หรือการปรับปรุงแอปพลิเคชันต่างๆ ถ้าคุณสนใจฟีเจอร์เหล่านี้ การอัปเดตเป็น iOS 18 จะเป็นทางเลือกที่ดี
2. ใช้แอปที่อัปเดตเข้ากับ iOS 18 แล้ว: ถ้าแอปที่คุณใช้เป็นประจำเริ่มปรับให้เข้ากับ iOS 18 การอัปเดตไปเวอร์ชันใหม่จะช่วยให้คุณใช้แอปได้เต็มประสิทธิภาพ
3. อุปกรณ์รุ่นใหม่: หากคุณใช้ iPhone หรือ iPad รุ่นใหม่ที่รองรับ iOS 18 อย่างเต็มที่ การอัปเดตจะทำให้คุณได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่มาพร้อมกับเวอร์ชันนี้

ข้อสรุป

• หากคุณต้องการความเสถียรและไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ควรเลือกอัปเดตเป็น iOS 17.7 เพื่อความปลอดภัย
• แต่ถ้าคุณสนใจฟีเจอร์ใหม่ๆ และไม่กังวลกับการเปลี่ยนแปลง iOS 18 ก็เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการใช้งานในอนาคต

จริงๆไม่มีถูกหรือผิด ถ้าไม่อยากเสี่ยงก็ติดตั้ง iOS 17.7 ไปก่อน เพราะเป็นเวอร์ชั่นอัปเดตด้านความปลอดภัยเท่านั้น ให้รอดูสัก 2-3 วัน จากลุ่มที่พูดคุยเรื่องการอัปเดต ค่อยอัปเดต ก็ไม่ถือว่านานเกินไป แต่หากต้องการที่จะอัปเดตในทันที และไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหา ไม่ได้มีอเหตุต้องใช้อะไรที่จำเป็นจริงๆ ก็สามารถอัปเดตได้เลย